แลบ 10
การวิเคราะห์ข้อมูลโครงข่าย (Network Analyst)
สามารถวิเคราะห์ข้อมูลโครงข่ายเชิงพื้นที่รวมถึงวิเคราะห์เส้นทางที่ดีที่สุด
ทิศทางในการเดินทาง ค้นหาสาธารณูปโภคที่อยู่ใกล้ที่สุด
รวมถึงวิเคราะห์พื้นที่ให้บริการที่ขึ้นกับระยะทางและเวลาในการเดินทาง
Network Analyst ยังช่วยให้ผู้สามารถสร้างเงื่อนไขสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลโครงข่ายได้เสมือนจริงมากยิ่งขึ้น
คือ กำหนดกฎในการเลี้ยว หรือตามเงื่อนไขกฎทางจราจร ด้วยความสามารถของ Network Analyst สามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้ดังนี้
- การวิเคราะห์เส้นทางที่ดีที่สุด
( Best
route analysis )
- การวิเคราะห์พื้นที่ให้บริการ
( Service
area analysis )
- การวิเคราะห์หาสิ่งอ้านวยความสะดวกที่ใกล้ที่สุด
( Closest
facility analysi )
- การวิเคราะห์เมทริกซ์ค่าใช้จ่ายระหว่างจุดเริ่มต้นกับจุดปลายทาง (Origin-Destination
cost matrix analysis)
- การวิเคราะห์ปัญหาการจัดเส้นทางของยานพาหนะ
( Vehicle
routing problem analysis )
- การวิเคราะห์หาที่ตั้งและการจัดสรร
(Location-allocation
analysis)
การเตรียมข้อมูลเพื่อสร้าง Network
Dataset
- ประเภทข้อมูลที่ใช้สร้าง Network
Dataset ได้แก่ Shapefile และ Geodatabase
สำหรับข้อมูลประเภท Shapefile จะต้องเก็บอยู่ในโฟลเดอร์เดียวกัน
ส่วนข้อมูลที่เก็บอยู่ในฐานข้อมูล Geodatabase ต้องเก็บอยู่ภายใต้
Feature Dataset เดียวกัน จึงจะสามารถสร้างได้
- ข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ในการวิเคราะห์ควรจะอยู่ในระบบพิกัดเดียวกัน
- ชั้นข้อมูลถนน
ควรกำหนดระบบพิกัดเป็น UTM และมีฟิลด์ข้อมูลในตาราง
และอาจจะไม่จำเป็นต้องมีครบทุกฟิลด์ก็ได้ ขึ้นกับการนำไปใช้งาน แต่อย่างน้อยควรมีฟิลด์ชื่อถนน , ระยะทางหรือเวลา
ชื่อฟิลด์
Name
|
การใช้งาน
|
ประเภทฟิลด์
Data Type
|
Network
Attribute
|
สูตรคำนวณหรือการกำหนดค่าฟิลด์
|
|
Usage
|
Unit
|
||||
Street
Name
|
เพื่อใช้บอกชื่อถนนอไร
|
Text
|
ชื่อถนน
|
||
Meters
|
วิเคราะห์ด้วยระยะทาง
|
Double
|
Cost
|
Meters
|
ความยาวเส้นถนน
Length
|
Minutes
|
วิเคระห์เวลาเดินทางด้วยรถยนต์
|
Double
|
Cost
|
Minutes
|
(METERS/Speed)*0.06
|
Speed
|
อาจใช้เพื่อคำนวณเวลา
|
Short
Integer
|
ใส่ความเร็วให้กับถนนแต่ละเส้น
|
- ชั้นข้อมูล Turn
Feature เป็นข้อจำกัดการเลี้ยวหรือให้เลี้ยวตามเส้นทางที่กำหนด สามารถเป็นได้ทั้ง Shapefile และ Feature Class
การใช้งาน
|
Network Attribute
|
การกำหนดค่า
|
|||
ชื่อฟิลด์ (Name)
|
ประเภทข้อมูล
(Data Type)
|
Usage Type
|
Unit
|
||
ข้อจำกัดการเลี้ยว
|
TurnRestrict
|
Boolean
|
Restriction
|
Unknown
|
หน้าต่าง
Evaluators
กำหนดค่า Type เป็น Constant และ Value เป็น Restriction
|
1.การสร้าง Network Dataset ในรูปแบบ Geodatabase
- การฐานข้อมูล Geodatabase จะประกอบด้วยข้อมูลถนน (Streets) และข้อมูลเส้นทางการเลี้ยว (Turn) ที่ต้องเก็บอยู่ภายใน Feature Dataset เดียวกัน
- ขั้นแรกไปสร้าง โฟลเดอร์เก็บงาน
และจากนั้นคลิกขวาทำการสร้าง Personal Geodatabase ตั้งชื่อว่า MyNetwork และจากนั้นคลิกขวาที่ MyNetwork ทำการสร้าง Feature
Dataset
- หน้าต่าง New
Feature Dataset ให้กำหนดชื่อเป็น Network > Next
- หน้าต่างต่อมาให้กำหนดพิกัด
แต่ในที่นี้เราจะทำการกำหนดพิกัดโดยการ Import ของพิกัด Streets จาก Road Network \ Paris.gdb \ streets มา > Next
- หน้าต่างนี้ >
Next
- หน้าต่างนี้แสดงค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ > Finish
จะได้ ผลลัพธ์ดังรูป
- เมื่อเราทำการสร้าง Feature
Dataset ได้แล้ว ให้นำเข้าข้อมูล Paris Turns , Streets เข้ามา
- ต่อไปการสร้าง Network Dataset ไปคลิกขวาที่ Network >
New > Network Dataset
- จะได้หน้าต่าง New Network Dataset ในที่นี้ให้กำหนดชื่อเป็น Paris Network > Next ต่อไป
- มันจะแสดงโครงข่ายออก
ให้เลือกชั้นข้อมูลโครงข่ายที่ต้องการสร้าง ในที่นี้คือ Streets
> Next
- หน้าต่างต่อมา
คือการกำหนดการเลี้ยวอัติโนมัติ ถ้าต้องการให้คลิก Yes > Next
- กำหนด Connectivity
เพื่อกำหนดการเชื่อมต่อข้อมูลที่ปลายถนน ให้เลือกแบบ End Point > OK > Next
Any Vertex คือ เส้นถนนจะตัดกัน
End Point คือ เส้นถนนจะไม่ตัดกัน
- กำหนดค่าเริ่มต้นของโปรแกรม
และคลิก Next
- หน้าต่างต่อมาคือการเพิ่มคุณสมบัติในการเลี้ยว
ถ้าต้องการให้ Add เข้ามา ถ้าไม่ต้องการเพิ่ม >
Next
- หน้าต่างต่อมาคือการกำหนดทิศทางการขับรถ
สามารถทำได้โดย >
Yes > Directions
-Display Length Units คือ
การกำหนดหน่วยการแสดงผลความยาว โดยเลือกเป็น Meters
-Name คือ
การกำหนดฟิลด์ที่เก็บชื่อถนนให้เลือกที่ช่อง เป็น FULL NAME
และ OK
- หน้าต่างต่อมานี้แสดงสรุปค่าต่างๆ ถ้าหากต้องการเปลี่ยนแปลงค่าใดๆ ให้คลิกปุ่มBack จากนั้นคลิกปุ่ม Finish เพื่อให้โปรแกรมสร้าง Network Dataset
- เมื่อทำการสร้าง Network
Dataset เสร็จแล้ว จะมีหน้าต่างปรากฏขึ้นมา ให้ตอบ Yes เพื่อทำการ Build Network Dataset
2.การวิเคราะห์เส้นทางที่ดีที่สุด
(Best route analysis)
-
เปิดแถบเครื่องมือ Network Analyst จากเมนู Customize > Toolbars
- จากนั้นไปคลิก Network Analyst เลือก New
Route
- ในหน้าต่าง Network
Analyst คลิกที่ Stops(0)
ให้เป็นสีน้ำเงินและคลิกปุ่ม Crate
Network Location เพื่อระบุบตำแหน่งในการวิเคราะห์ โดยให้ระบุบตำแหน่งเริ่มต้นและปลายทางที่ต้องการวิเคราะห์เส้นทาง ซึ่งปลายทางนั้นอาจมีมากกว่า 1 ตำแหน่งก็ได้
โดยจะวิเคราะห์เส้นทางจากจุด 1 ไปยัง จุด 2,3,4
ได้
- จากไปที่หน้าต่าง Network
Analyst คลิกปุ่มเพื่อปรับคุณสมบัติของ Route
Layer แล้วเลือกที่แท็บ Analysis
Settings เพื่อกำหนดคุณสมบัติของการวิเคราะห์
ในที่นี้เราจะปรับเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดหรือสั้นที่สุดจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดสุดท้าย
-Impedance คือ Meters
(Meters) กำหนดระยะทางที่สั้นที่สุด ,
Minutes( Minutes) กำหนดเวลาที่ที่ดีที่สุด
- เมื่อกำหนดคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว คลิกปุ่ม Solve เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ และผลลัพธ์ที่ได้จะได้เส้นทางที่มีระยะทางที่สั้นที่สุดจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดปลายทาง
- แต่ถ้าต้องการหาเส้นทางที่เราใช้ระยะเวลาที่ดีที่สุดก็สามารถไปกำหนดใหม่ได้ที่คลิกปุ่มเพื่อปรับคุณสมบัติ
- ถ้าอยากรู้ทิศทางการเดินทาง ให้คลิกปุ่ม Directions Windowมันจะแสดงคำอธิบายว่าต้องไปทางไหน มี Map
แสดงแผนที่ ซูมแผนที่ได้ ดังรูป
3.การวิเคราะห์พื้นที่ให้บริการ
(Service Area Analysis)
เป็นการหาพื้นที่ให้บริการ
ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้โดยโครงข่าย เช่น
การหาจำนวนของลูกค้าที่อยู่ในบริเวณที่สามารถเดินทางเข้ามายังร้านสะดวกซื้อภายใน 10
นาที ซึ่งจะหาได้จากพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้โดยโครงข่าย
- โดยไปคลิกที่ Network
Analyst เลือก New Service Area จะปรากฏ
Service Area Layer ใน TOC
- และทำการกำหนดจุดแทนร้านสะดวกซื้อขึ้นมา
1
จุด
-Impedance คือ
สามารถกำหนดได้ทั้งเวลา(Minutes) และระยะทาง(Meters)
-Default Breaks คือ
การกำหนดค่าที่ใช้ในการหาพื้นที่ให้บริการ
-Away From Facility คือ ทิศทางออกจากจุดบริการ
-Towards Facility คือ ทิศทางเข้าหาจุดบริการ
- เมื่อเสร็จ >
OK > ไปคลิกปุ่ม Solveเพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ จะได้พื้นที่ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาภายในร้านสะดวกซื้อภายในเวลา
10 นาที
หรือกำหนดค่าที่ใช้ในการหาพื้นที่ให้บริการ
เช่น 3,5,7 เป็นเวลา
จะหมายความว่าจะสร้าง Polygon ของพื้นที่ที่ให้บริการ
โดยแบ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้ภายในเวลา
3,5,7 นาที
4.การวิเคราะห์หาสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใกล้ที่สุด
(Closest Facility)
เป็นการค้นหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ใกล้ที่สุด
เช่น
การค้นหาโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดเพื่อขนส่งผู้เจ็บป่วยไปรักษา และสามารถกำหนดจำนวนโรงพยาบาลได้
ซึ่งทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและผลที่ได้จะแสดงเป็นเส้นทางจากจุดอุบัติเหตุไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด ส่วนในที่นี้เราจะกำหนดให้มีจุดโรงพยาบาล 4 จุด และมีจุดเกิดอุบัติเหตุ 10 จุด
เพื่อทำการส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลที่ระยะทางใกล้ที่สุด
- โดยไปคลิกที่
Network Analyst เลือก New Closest Facility จะปรากฏ
Closest Facility Layer ใน TOC
- ทำการระบุบตำแหน่งของสิ่งอำนวยความสะดวก
คือ โรงพยาบาล โดยคลิกที่ Facilities แล้วไปคลิกที่ปุ่ม Crate
Network Locationเพื่อระบุบตำแหน่ง ของโรงพยาบาล 4
แห่ง
- ทำการระบุบตำแหน่งของจุดเกิดอุบัติเหตุ
โดยไปคลิกที่ Incidents
ใน Network Analyst แล้วไปคลิกที่ปุ่ม Crate
Network Locationเพื่อระบุบตำแหน่ง ของอุบัติเหตุจำนวน
10 แห่ง
- จากนั้นไปคลิกที่ปุ่มเพื่อเปิดหน้าต่างคุณสมบัติของ Closest
Facility Layer แล้วเลือกที่แท็บ Analysis Settings กำหนดดังภาพแบะคลิก
-Impedance คือ กำหนดเป็น Meters เพื่อค้นหาระยะทางที่เร็วที่สุด
- หรือต้องการแสดงรายละเอียดชั้นข้อมูล
Routes
ให้ไปคลิกขวาที่ Route เลือก Open
Attribute Table
สามารถทราบได้ว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุควรส่งไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดที่ไหนและระยะทางเท่าไร
5.การหาเมตริกซ์ค่าใช้จ่ายที่เกิดระหว่างจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทาง
(Origin-Destination Cost Matrix)
เป็นการหาเมตริกซ์ที่แสดงค่าใช้จ่าย
ในการเดินทางจากจุดเริ่มต้นไปยังปลายทาง
รวมทั้งมีการจัดลำดับในการเดินทางไปยังปลายทางต่างๆ เพื่อใช้เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละเส้นทาง แต่ค่าใช้จ่ายในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเงิน แต่เป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องของเวลาและระยะทาง
ผลลัพธ์ที่ได้จะแสดงเป็นเส้นตรงที่เชื่อมโยงระหว่างจุดต้นทางและปลายทาง เพื่อให้ดูข้อมูลง่ายขึ้น
และวิเคราะห์ตามเส้นทางการเดินทางบนถนนจริง
- ในที่นี้เราจะสมมุติให้มีคลังสินค้า
3
แห่ง ส่งสินค้าให้ร้านค้าปลีก 5 แห่ง
ในระยะทางใกล้ที่สุด
- โดยไปคลิกที่ Network Analyst เลือก New OD Cost Matrix
- จากนั้นทำการกำหนดระบุตำแหน่งของจุดเริ่มต้น
(Origin) คือคลังสินค้า 3 แห่ง และทำการระบุบตำแหน่งปลายทาง
(Destinations) คือร้านค้าปลีก 5 แห่ง โดยคลิก ปุ่ม Create
Network Location Toolและกำหนดตำแหน่งลงไป
- คลิกที่ปุ่ม Od Cost Matrix Properties แล้วคลิกแท็บ Analysis
Settings เพื่อกำหนดคุณสมบัติของการวิเคราะห์
-Impedance คือ กำหนดเป็น Meters เพื่อค้นหาระยะทางที่เร็วที่สุด
หรือ ถ้าต้องการเวลาที่ดีที่สุด ให้เลือก Minutes
- จากนั้นไปคลิกที่ปุ่ม Solveมันจะแสดงเส้นทางต่างๆ
ระหว่างจุดเริ่มต้น(คลังสินค้า)และปลายทางต่างๆ (ร้านค้าปลีก)
- ถ้าหากต้องการเปิดตารางแสดงผลลัพธ์ ให้ไปคลิกขวาที่ Line
ใน Network Analyst แล้วเลือก Open
Attribute Table จะแสดงรายละเอียดของเส้นทางระหว่างจุดเริ่มต้น(คลังสินค้า)และจุดปลายทางต่างๆ
(ร้านค้าปลีก)
ถ้าเราดูจากตารางถ้าเราต้องการส่งสินค้าจากคลังสินค้าไปยังร้านค้าปลีกที่
4
ควรเลือกคลังสินค้าไหนที่เส้นทางที่สั้นที่สุด คำตอบก็คือ คลังสินค้าที่ 2 เส้นทางที่ 6 มีระยะทางสั้นที่สุด ดังรูป
VDO 10
จากที่ผมดูขอถามนิดหน่อยนะครับ
ตอบลบจากข้อที่ทำการวิเคราะห์ ที่เป็น routes สามารถทำ expost ได้มั้ยครับ? จากที่ผมดูก็หน้าจะได้เพราะมี Expost Data อยู่ เลยอยากจะถามครับว่าได้จริงหรือป่าว
แล้ว การส่งสินค้าจากคลังสินค้าไปยังร้านค้าปลีก ที่ผมเห็นเส้นมันจะตัดจากถนน คือมันไม่ไปตามเส้นถนนก็อยากจะถามว่า ถ้าจะกำหนดมันให้ไปตามถนนจะได้หรือป่าวครับ? คือว่าผมยังไมได้ลองทำเพราะยังไม่มีข้อมูลในการวิเคราะห์ ถ้าผมอยากข้อมูลมาลองทำได้ขอติดหลังไมค์ได้หรือป่าว hero10349@gmail.com นะครับ